Tag: คาร์ซีทเด็กแรกเกิด

บทความ

Family Blog คาร์ซีทสำคัญแค่ไหน แม่ตูนน์เล่าเรื่องก่อนเลือกซื้อ

October 24, 2018

ไหนนนน บ้านไหนชอบได้ยินว่า ไม่ต้องซื้อคาร์ซีทหรอก ไม่ต้องเตรียมหรอก ค่อยๆ ขับ ระวังๆ ก็ไม่เป็นไรแล้ว

บ้านนี้ขอยกมือ เป็นลำดับแรกๆ เลยค่ะ ซึ่งเอาจริงๆ เนี่ย ตอนแรกก่อนมีน้อง ตัวเองก็เฉยๆ นะ ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งวันที่มีน้องต๊าตต์ และเริ่มวางแผนการเตรียมซื้อของให้เค้า

วันแรกที่แม่เริ่มเกริ่นเรื่องว่าจะซื้อ Carseat

ด้วยความที่เราเป็นแม่สายอ่านหาข้อมูลวิเคราะห์ ถามแฟนเพจ พูดคุยกับแม่ๆ คนอื่นๆ ทำให้เรารู้ว่า carseat เนี่ยเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดในการเตรียมก่อนคลอดเลย เพราะหลังจากน้องออกจาก รพ. แล้วจะต้องมีพร้อม

หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ราคาสูง แลดูสิ้นเปลืองมากๆ ซึ่งตอนแรกเนี่ย ทางบ้านตูนน์ก็มีคิดแบบนั้นเหมือนกันนะ มักจะเริ่มจากคำที่ว่า “สมัยเราเด็กๆ ยังไม่ต้องใช้เลย” แต่เราพยายามอธิบายให้เค้าฟังถึงเหตุ และผล พร้อมกับยกตัวอย่างเหตุการณ์ต่างๆ ให้เค้าได้ฟัง … ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้ต้องค่อยๆ อธิบายกันให้เข้าใจค่า

สำหรับตูนน์แล้ว Carseat คล้ายๆ ซื้อประกัน เอาจริงๆ ไม่มีใครอยากต้องใช้ประกันหรอก แต่มันคือการซื้อความปลอดภัย และเมื่อเกิดเหตุขึ้น เราก็มั่นใจว่าลูกเราจะปลอดภัย

tuniez

ในเมืองนอก หลายๆ ที่ถือว่า Carseat นี่เป็น สิ่งที่ต้องมาเพื่อ รับเด็กออกจากรพ. เลย ถ้าไม่มีเนี่ย บางที่เค้าไม่ให้น้องออกเลย ซึ่งในประเทศไทยยังไม่สามารถมีกฏหมายบังคับ แต่ว่าหลายครั้งหลายหนที่เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ซึ่งเราไม่อยากให้มันเกิด ถึงแม้ว่าเราจะระมัดระวังแค่ไหน แต่เรื่องอุบัติเหตุ ก็ยากที่จะห้ามไม่เกิดขึ้นได้ อาจจะไม่ได้เกิดเพราะเรา แต่เกิดเพราะคนร่วมถนน

แล้ว Carseat เนี่ย ต้องเลือกยังไง?

สำหรับ Carseat ควรเลือกที่ได้รับมาตรฐาน และที่สำคัญคือ “ตอบโจทย์” ของเราให้มากที่สุด ทั้งเรื่องราคา วัสดุ และอายุการใช้งาน บางอันมีโหมดมาก วัสดุลายหรูหรา options เสริมเยอะ ก็อาจจะหลายหมื่นบาท บางอันเน้นการใช้งานง่าย ใช้ได้นาน แต่ราคาไม่แพงก็มี

อ่ะ ยกตัวอย่างของบ้านตูนน์ จะเลือกงบไว้ในใจก่อน คือซัก 9000 – 15000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่พอรับไหว เพราะเท่าที่ดูหลายๆ ยี่ห้อ เฉลี่ยๆ ก็จะอยู่ประมาณนี้ (ซึ่งแน่นอนแพงกว่านี้ก็มี ถูกกว่านี้ก็มี) จากนั้นก็จะเลือกเป็นช่วงอายุใช้งาน คือต้องใช้ได้เกิน 4 ขวบขึ้นไป

ทีนี้พอเราเริ่มศึกษาไป มันก็จะเจอว่า มันมีแบบ Belt กับ Isofix ซึ่งรถสมัยใหม่จะมี isofix เกือบทุกคันอยู่แล้ว แต่รถรุ่นเก่าหน่อยจะต้องติดตั้งแบบ belt เท่านั้น (มีรายละเอียดข้อดีข้อเสียของ 2 ระบบนี้ที่อ่านศึกษามา แต่เอาไว้มีคนถามค่อยบอกแล้วกัน)

ตูนน์เลือกแบบ Belt เพราะ พอดีที่บ้านมีรถหลายคัน ช่วงแรกต้องไปอยู่บ้านตายาย เลยคิดว่าติดตั้งแบบ Belt จะไม่ยุ่งยากมาก (แต่สำคัญมากๆ คือต้องติดตั้งให้ถูกวิธีนะคะ) คราวนี้ก็ได้สิ่งที่ต้องการคร่าวๆ แล้วก็เริ่มหา สรุปก็มาเจอแบรนด​์ Prince & Princess เป็น ซึ่งตอบโจทย์ทุกอย่างที่วางไว้ เพิ่มเติมตรงที่

  • ใช้ได้ถึง 7 ขวบ
  • เบาะนั่งแรกเกิดมี cushion แบบ ออร์แกนิค
  • มีหมอนสำหรับประคองคอเด็กแรกเกิด ออกแบบเหมือนแขนแม่โอบตัว

ก็เลยคุยกับคุณพ่อว่า เอาอันนี้ดีมั้ย ราคาไม่แพงด้วย ใช้ได้นาน พ่อก็เลยอนุมัติ แม่ตูนน์ก็เลยติดต่อร้าน http://www.babygiftretail.com/ 
เพื่อสั่งจองไป (จริงๆ จะไปเอาที่งานพวก BBB ช่วง7-8 เดือนแต่แบบ หนักพุงแม่ไปไม่ไหว เลยสั่งทางเว็ปเอา (ราคากับโปรโมชั่นก็ลองคุยกับร้านดู แต่ราคาเต็มคือ 15900 ลดเหลือ 12900 จ้า ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ราคาไม่แพงมาก เทียบกับ Spec อายุการใช้งานที่รองรับ

ขอเพิ่มเติมจุดเด่นของแบรนด์  Prince & Princess ที่แม่เลือกนะคะเผื่อแม่ท่านอื่นจะนำไปเป็นข้อมูล

คาร์ซีท Prince&Princess รุ่น DUCLE Organic
ผ้าฝ้ายอินทรีย์ออแกนิค จากขั้นตอนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปลอดสารเคมี เนื้อผ้านุ่มสบายสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย Made in Korea  รองรับมาตรฐาน ECE

  1. เรื่องความปลอดภัย คือผ่านมาตรฐานความปลอดภัยทั้งตัวคาร์ซีท และโรงงานที่ผลิต เชื่อถือได้ ตอบโจทย์ทุกอย่างที่วางไว้เลย
  2. เรื่องของเบาะนั่งแรกเกิดมี cushion แบบ ออร์แกนิค คือดีงามสำหรับเด็กแรกเกิดที่ผิวเค้าจะแพ้หรือระคายเคืองง่าย อันนี้แม่ชอบมาก
  3. สามารถนั่งได้จนถึง 7 ขวบเลย โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการติดตั้งได้ 3 แบบ ซึ่งตอบโจทย์แม่กับพ่อสุดๆ แถมช่วยประหยัดงบ

สั่งแล้วนัดวันจัดส่งสะดวก สามารถติดตั้งเองได้ไม่ยาก (ตามคู่มือ หรือ Youtube สาธิตการติดตั้ง)

รอคุณพ่อเอาไปติดตั้งที่รถ

เป็น organic

 

หนูสต๊าตต์ วันนี้กลับบ้านแล้ว นั่งคาร์ซีทหลับสบายเลยคับ

สนใจคาร์ซีท Ducle Organic แบบ น้องสต๊าตต์ : Ducle Organic

ติดตามอ่านฉบับเต็มได้ที่ : Tuniez Blog
เพจแม่และเด็ก : Start Baby Journey
คุณแม่ตูน คุณแม่บล็อกเกอร์ Beauty Blogger / Baby and Mom
บทความ

วิธีฝึกลูกให้นั่งคาร์ซีทได้ง่ายขึ้น

August 17, 2018

วิธีฝึกลูกให้นั่งคาร์ซีทได้ง่ายขึ้น

1. สร้างความเคยชินให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่เกิด

คิดว่าคุณแม่ต้องเคยได้ยินคำว่า “ ยิ่งฝึกลูกนั่งคาร์ซีทเร็วเท่าไหร่ ยิ่งดี ” ถ้าเริ่มใช้คาร์ซีทตั้งแต่วันแรกที่นำลูกออกจากโรงพยาบาล จะฝึกลูกนั่งคาร์ซีทได้ง่ายมากกว่า

ส่วนครอบครัวไหนที่เริ่มหัดนั้งคาร์ซีทหลังจากนั้น แนะนำว่าถ้าซื้อคาร์ซีทมาแล้วให้ลูกลองนอนเล่นที่บ้านดูก่อน ช่วยให้เขารู้สึกว่าเป็นที่นั่ง หรือที่นอนประจำตัวของเขา สร้างความคุ้นเคย และคุณแม่สามารถสังเกตได้ว่าลูกอึดอัด หรือสบายตัวแค่ไหน ก่อนพาลูกนั่งคาร์ซีทออกไปท่องเที่ยวนะคะ

2. คุณแม่คอยนั่งให้กำลังใจลูกข้างๆ

ข้อนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่ในช่วงแรกๆอยากให้คุณแม่หรือคุณพ่อทำดูนะคะ เพราะถ้าลองสังเกตดีๆเด็กๆมักจะร้องไห้เพราะไม่เห็นคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ๆ การที่มีคุณแม่มาคอยให้กำลังใจ นั่งพูดคุยด้วย ทำให้ลูกได้ยินเสียง ได้สัมผัสมือที่อบอุ่นคุ้นเคยจากแม่ จะทำให้เขาหยุดร้องไห้ได้ง่ายขึ้น อุ่นใจ แล้วเรายังจะคอยกล่อมเขาให้หลับได้ด้วยนะ

3.พกของเล่นคู่ใจลูกติดรถไว้ช่วยได้

ถ้าลูกนั่งคาร์ซีทแล้วยังร้องไห้อยู่ ลองหยิบตุ๊กตาคู่ใจ หรือของเล่นมีเสียงมีไฟ มาช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของลูกดูค่ะ นอกจากจะช่วยให้เขาหันมาสนใจสิ่งของตรงหน้าแล้ว ยังเสริมสร้างพัฒนาการด้านการมองเห็น หรือด้านกล้ามเนื้อมือต่างๆที่เขาได้ลองหยิบจับหรือกดปุ่มต่างๆเล่นด้วยค่ะ

4. นมหรือขนมช่วยให้ลูกหยุดร้องได้

แน่นอนว่าการเดินทางที่ยาวนานลูกอาจจะต้องหิวกันบ้าง ซึ่งเด็กจะแสดงออกด้วยการร้องไห้ ก่อนจะทำวิธีอื่นๆลองเช็คดูว่าลูกหิว หรือว่าถึงเวลาให้นมแล้วหรือยัง ถ้าลูกหิวก็แวะพัก จอดรถให้ลูกดื่มนมให้อิ่มและสบายตัวก่อนนะค่ะ  หลังจากนั้นเขาก็จะได้เวลางีบหลับตามธรรมชาติของเด็กค่ะ

5.สร้างกิจกรรมด้วยการร้องเพลงหรือเล่านิทาน

หากิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันกับลูกได้ เช่นร้องเพลง เล่านิทาน หรือเล่าอธิบายเรื่องการนั่งคาร์ซีทให้ลูกฟังด้วยก็ได้ค่ะ ลูกจะค่อยๆทำความเข้าใจ  และวิธีเหล่านี้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ และช่วยเบี่ยงเบนความสนใจได้ดีเลยละค่ะ

และสิ่งที่จะต้องเจอในช่วงฝึกลูกนั่งคาร์ซีทก็คือ น้ำตาของเจ้าตัวน้อย ที่ร้องไห้จนคุณแม่หลายๆคนต้องอุ้มลูกออกจากคาร์ซีทมาปลอบกันก่อน เข้าใจเลยนะค่ะว่าการเป็นแม่ที่จะต้องเห็นลูกร้องไห้นั้นทรมานขนาดไหน แต่คุณแม่ต้องใจแข็งไว้นะค่ะ ถ้าลูกร้องให้เข้าไปพูดคุยและค่อยๆอธิบายกับลูก ถึงจะยังฟังไม่เข้าใจแต่ถ้าได้ฟังไปเรื่อยๆลูกจะเกิดการเรียนรู้ จะเริ่มเข้าใจว่าเมื่อขึ้นรถตรงนี้คือที่นั้งประจำของเขา แต่ถ้าลูกร้องไห้ ดิ้นไม่หยุด และมีท่าทีว่าจะแรงขึ้นให้เปลี่ยนเป็นการแวะพัก พาลูกออกมาอุ้ม เดินเล่นพูดคุยกับลูกให้รู้สึกผ่อนคลายก่อน แล้วให้ลูกกลับไปนั่งในคาร์ซีทใหม่ เพราะสิ่งที่ลูกต้องการที่สุดก็คือกำลังใจและไออุ่นจากคุณพ่อคุณแม่นี้แหละค่ะ

ช่วงแรกๆคงจะต้องเจอน้ำตาหนักหน่อยนะค่ะ แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ผ่านไปได้ ไม่เอาลูกออกจากคาร์ซีท รับรองว่าครั้งต่อๆไปลูกจะร้องน้อยลงและยอมนั่งคาร์ซีทได้ง่ายๆ คราวนี้แหละคุณพ่อคุณแม่ก็จะเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยค่ะ

Prince and Princess ของเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนผ่านพ้นการฝึกลูกนั่งคาร์ซีทไปได้ด้วยดีนะคะ

และคุณพ่อคุณแม่เองก็อย่าลืมเลือกคาร์ซีทที่นุ่มสบายตัวให้กับลูก อย่างคาร์ซีท รุ่น Ducle Organic ที่เน้นปกป้องจุดที่บอบบางของลูกตลอดทั้งช่วงตัว ผิวสัมผัสนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี ใช้งานได้ยาวนานตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 7 ปี